ปัจจุบันเวลาไปไหนมาไหนภาพที่เราเห็นกันจนคุ้นตา คือ เด็ก ผู้ใหญ่ และคนแก่กำลังนั่งก้มหน้าง่วนอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตอย่างขะมักเขม้น ซึ่งฝรั่งเรียกกันว่า สังคมยุค “Gen S” หรือ “Generation Screen” ที่ผู้คนใช้ชีวิตและเสพสื่อผ่านจอรอบตัว ทำให้ดวงตาของเราเสี่ยงผิดปกติ ดังนั้นปีใหม่นี้เคล็ดลับสุขภาพดีจึงมีวิธีถนอมดวงตามาฝากกัน 3 เทคนิคค่ะ
โดย ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา นักวิทยาศาสตร์ไทยคนแรกผู้คิดค้นวิธีการสร้างภูมิคุ้มกันให้สมดุลจากสารสกัดพืชไทยเพื่อถนอมดวงตาอธิบายว่า จากข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติปี 2557 ระบุว่าคนไทยใช้มือถือประมาณ 41 ล้านคน ใช้คอมพิวเตอร์ประมาณ 20 ล้านคน ใช้อินเทอร์เน็ตประมาณ 15 ล้านคน ส่วนใหญ่เลือกใช้สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากที่สุด โดยใช้เวลาอยู่หน้าจอเฉลี่ยวันละ 7.2 ชั่งโมง ทำให้คนไทยในปัจจุบันตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุมีภาวะเสี่ยงเป็นโรคตามากขึ้น แต่ความจริงแล้วปัญหานี้สามารถป้องกันได้ไม่ยากกับ 3 เทคนิค ดังนี้
เทคนิคที่ 1 ตาสวยใสด้วยโยคะดวงตาก็เหมือนอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายสามารถบริหารความแข็งแรง ช่วยคลายความเหนื่อยล้าด้วยท่าโยคะง่ายๆ เริ่มจากหลับตา ถูฝ่ามือจนรู้สึกอุ่นแล้วแนบฝ่ามือที่เปลือกตา 1 นาที หายใจลึกๆ เอามืออกแล้วลืมตา พร้อมกรอกตาจากซ้ายไปขวา โดยมองตรงไปที่ไกลๆ จากมุมซ้ายสุดไปยังขวาสุด 4 ครั้ง สุดท้ายกวาดตาเป็นวงตามเข็มนาฬิกา 4 รอบ แล้วเคลื่อนสายตาจากบนสุดลงมาล่างสุดช้าๆ 4 ครั้ง เป็นเสร็จ
เทคนิคที่ 2 ตาสวยใสด้วยอาหารหลากสีใน 1 สัปดาห์ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคตาสูง ยิ่งควรใส่ใจกับทุกมื้ออาหารเพื่อบำรุงดวงตาให้สวยใส ซึ่งอาหารที่แนะนำเป็นพิเศษ คือ ผักผลไม้หลากสี โดยเฉพาะสีส้ม สีเหลือง และสีม่วง ที่มีเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ แคโรทีนอยด์ และแอนโธไซยานินสูง เช่น แครอท มะเขือเทศ ส้ม ผักสีเขียวที่อุดมด้วยแซนทีน ลูทีน และวิตามินเอ เช่น ปวยเล้ง บรอกโคลี คะน้า ผักบุ้ง ตำลึง ผลไม้ตระกูลเบอรี่ทั้งหลาย และปลาทะเล ที่อุดมด้วย DHA และกรดไขมันโอเมก้า 3 อาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยอย่างมากในการบำรุงสายตา
และเทคนิคที่ 3 ตาสวยใสด้วยภูมิสมดุลอาการผิดปกติต่างๆ เกี่ยวกับดวงตา ไม่ว่าจะเป็นอาการตาแห้ง วุ้นตาเสื่อม ต้อกระจก ต้อหิน จอประสาทตาเสื่อม ฯลฯ มีสาเหตุมาจากที่เม็ดเลือดขาวในตัวเราสร้างสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ เช่น IL-I-beta, IL-6, IL-17, TNF-alpha, IFN-gamma มากเกินไปจนเสียสมดุล ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันและแก้ไขความผิดปกติเกี่ยวกับดวงตาคือ จะต้องหาทางกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวลดการหลั่งสารเหล่านี้ลงให้น้อยที่สุดจนภูมิคุ้มกันกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลอีกครั้ง ซึ่งการวิจัยล่าสุดได้พบนวัตกรรมชื่อว่า “APCO cap” ที่สกัดจากพืชธรรมชาติ 5 ชนิด ได้แก่ มังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง และบัวบก เมื่อนำมาเสริมฤทธิ์กันจะมีประสิทธิภาพในการทำให้เม็ดเลือดขาวลดการหลั่งสารก่อการอักเสบลง
ผลการทดสอบจากศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ชี้ว่าสารที่ก่อการอักเสบในเม็ดเลือดขาวมีอัตราลดลงอย่างเห็นได้ชัด จึงสามารถช่วยป้องกันและทำให้ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับดวงตาดีขึ้น ถือเป็นมิติใหม่ของการดูแลสุขภาพที่ให้ธรรมชาติดูแลร่างกายสำหรับใครที่ยุ่งจนไม่มีเวลาแนะนำว่าเวลาใช้คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต อาจใช้วิธีพักสายตาด้วยการหลับตาสั้นๆ สัก 5 นาที วันละ 4 ครั้ง ที่สำคัญควรดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อให้ดวงตาชุ่มชื่น นอกจากนี้ควรหาต้นไม้เล็กๆ หรือภาพทุ่งหญ้ามาประดับไว้บ้าง เพราะมีงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่าการพักสายตาด้วยการมองสีเขียวสามารถช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าทางสายตาได้เป็นอย่างดี
เมื่อเราทราบเทคนิคดีๆแบบนี้แล้วอย่าลืมลองปฎิบัติตามคำแนะนำ เพราะถึงแม้ว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ จะช่วยให้ชีวิตมนุษย์สะดวกสบายมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือ เราต้องรู้เท่าทันในเรื่องการใช้ประโยชน์และผลที่จะตามมาด้วย เพื่อให้ดวงตาคู่สวยอยู่กับเราไปนานๆ และมีชีวิตที่สมดุลประสบความสำเร็จในปีวอกตลอดไปค่ะ
ขอบคุณข้อมูล :หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับวันที่ 3 มกราคม 2559
โรคอัลไซเมอร์ เป็นอาการสมองเสื่อม (Dementia) ชนิดหนึ่ง ที่การทำงานของสมองเสื่อมลง ส่งผลกระทบต่อการทำกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วย ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์จะมีอาการสมองเสื่อมรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถปฎิบัติกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม...ทั้ง "ซีสต์" และ"เนื้องอกที่มดลูก" เป็นสิ่งแปลกปลอมของร่างกายที่จะต้องถูกกำจัดโดยเม็ดเลือดขาวเพชฌฆาต การกระตุ้น Th1 และ Th17 จะเพิ่มความสามารถของเม็ดเลือดขาวเพชฌฆาตให้ทำหน้าที่นี้ด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม...
สาเหตุหลักของการเกิด "ข้อเสื่อม" มักเป็นไปตามอายุ แต่อาจเป็นผลมาจากสาเหตุทางกรรมพันธุ์ และสาเหตุอื่น ๆ ได้แต่การใช้ข้อทำงานมากเกิดไป หรือเป็นภายหลังจากการเกิดข้ออักเสบชนิดอื่น ๆ
โรคเบาหวานเป็นความผิดปกติของร่างกายที่เกิดจากเบต้าเซลล์ของตับอ่อนผลิต อินซูลินไม่เพียงพอ หรือตัวรับอินซูลินที่ผิวเซลล์เกิดภาวะดือ้ต่ออินซูลิน
นักภูมิคุ้มกันวิทยาพบว่า อาการ "ภมิแพ้อากาศ" เกิดจากเม็ดเลือดขาว TH2 ถูกกระตุ้นมากไปจนเกินความสมดุล แต่สามารถลดลงได้โดยการกระตุ้นด้วยเม็ดเลือดขาว TH1 และเม็ดเลือดขาว Treg ให้มากขึ้น อาการภูมิแพ้ก็จะลดลง
"มะเร็ง" คือ กลุ่มของโรคที่เซลล์เจริญ (แบ่งตัว) อย่างผิดปกติการที่เซลล์เปลี่ยนสภาพไปจากปกติจึงไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของ
โรคกระเพาะอาหารหมายถึง ภาวะมีแผลที่ เยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากมีกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป เยื้อบุกระเพาะอาหารอ่อนแอและมีเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งหลั่งสารพิษออกมาทำให้เกิดแผลเรื้อรังขึ้น
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม...